แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่าสุขภาพกายที่แข็งแรงเป็นบ่อเกิดของสุขภาพใจที่ดี แต่หลายคนกลับหลงลืมความจริงข้อนี้ด้วยชีวิตในสังคมบีบบังคับให้ต่างต้องเร่งรีบแข่งขัน เน้นกินง่าย อยู่ง่าย จนลืมความละเมียดละไมของการใช้ชีวิตอย่างสมดุล คุณแอน พรมศักดิ์ เจ้าของสวนเกษตรสุขกลางกรุง ผู้ค้นพบวิถีชีวิตใหม่หลังเข้าใจตนเองว่าไม่ใช่มนุษย์เหล็กหลังจากคร่ำเคร่งทำงานอย่างหนักจนปัญหาสุขภาพรุมเร้า จึงหันกลับมาปรับชีวิตตัวเองโดยเริ่มจากการเลิกทำงานหนัก เริ่มเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เริ่มทดลองปลูกผักในกระถางเล็ก ๆ จนเกิดเป็นวิถีชีวิตแห่ง “สวนเกษตรสุข”
คุณแอนและคุณตี๋ พรมศักดิ์ สองสามีภรรยา ผู้มองหาความสุขที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของการมีสุขภาพที่แข็งแรง จึงเริ่มทำสวนเกษตรอินทรีย์กลางกรุงในพื้นที่ของตนเอง เดิมทั้งคู่เน้นการทำสวนนี้เพียงเพื่อพอรับประทานและแบ่งปันคนรู้จัก จนกระทั่งพบว่ากลุ่มผู้ป่วยมะเร็งต้องรับประทานผักที่สะอาด ปราศจากทั้งสารพิษและสารเคมี จึงเริ่มขยายกำลังการปลูกเป็นระดับครอบครัว เพื่อแบ่งจำหน่ายให้ผู้สนใจในวงที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ความต้องการผักปลอดสารพิษยิ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณเพราะคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จนผักในสวนโตไม่ทันขาย มียอดสั่งจองล่วงหน้าจนถึงขนาดต้องต่อคิว หนึ่งในความพิเศษจากผักที่ปลูกแบบไม่ใช้สารเคมีนั้นคือผักจะกรอบและรสชาติอร่อยมาก ทำให้หลายคนที่เคยได้ลิ้มลองติดใจกลายเป็นลูกค้าประจำของสวนเกษตรอินทรีย์
“เราเริ่มจากตัวเราแล้วค่อยขยายสู่ผู้อื่นตามกำลังเท่าที่ทำได้ ใครไม่มีเงินเราก็แจกฟรี ถือเป็นการช่วยเหลือกัน เพราะทุกคนต่างอยากมีสุขภาพที่ดี ทุกคนอยากมีช่วงเวลาที่ได้ดูแลตัวเอง เมื่อคนกินอาหารสังเคราะห์ อาหารแปรรูปมาก ๆ สุดท้ายก็ป่วย การปลูกผักปลอดสารกินเองจึงเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด เราได้อยู่กับธรรมชาติ ได้ฝึกจิตใจให้สงบ มีสติ มีสมาธิ เป็นมีชีวิตที่เรียบง่าย”
คุณแอนไม่หวงวิชา เธอเปิดช่องทางสื่อสารทั้งบน YouTube และ Facebook เพื่อถ่ายทอดความรู้ในการปลูกผักปลอดสารให้ได้เรียนกันฟรี ๆ ด้วยความตั้งใจแบ่งปันทั้งความรู้และสุขภาพที่ดีแก่ผู้คน ซึ่งมีผู้ที่สนใจจริงจัง อยากทำเป็นอาชีพแวะเวียนเข้าไปขอคำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา ทำให้แปลงผักของเธอและสามีเติบโตเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรสุขกลางกรุง ที่ยินดีต้อนรับผู้สนใจให้สามารถเข้าไปดู ไปศึกษากระบวนการปลูกอย่างละเอียด เพราะทั้งคุณแอนและคุณตี๋คิดเสมอว่า การส่งต่อสุขภาพที่ดีเป็นธรรมทานที่นับเป็นกุศลอย่างยิ่ง ผู้ที่สนใจศึกษาเป็นอาชีพ สวนเกษตรกลางกรุงมีหลักสูตร 1 วันเต็ม พร้อมบริการให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลาการทำสวนโดยมีการเก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ซึ่งคุณแอนถือเป็นการคัดกรองให้ได้ผู้ที่สนใจและตั้งใจจริง จนปัจจุบันมีลูกศิษย์ที่มาเรียนรู้แนวทางการปลูกผักอินทรีย์อยู่ทั่วประเทศ
อยากให้ทุกคนหันมาสนใจร่างกายและจิตใจตนเอง วิ่งหาอะไรข้างนอกเยอะแยะ แต่สุดท้าย...ก็ไม่ใช่ความสุข
“อยากให้ทุกคนหันมานึกถึงร่างกายและจิตใจของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทำงานแบบละเลยสุขภาพจนตัวเองป่วย เราไม่ได้บอกว่าห้ามทำงาน แต่ขอให้คุณรู้ว่า ร่างกายของเราควรได้รับการดูแล และสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลอีกสิ่งหนึ่งก็คือจิตใจ เพราะโรคต่าง ๆ เกิดจากสิ่งเร้ามากมาย สุดท้ายคนอาจจะไม่ป่วยกายแต่ป่วยใจ หรือบางคนอาจป่วยทั้งสองอย่าง มีคนโทรศัพท์มาปรึกษาเรื่องความเครียดในชีวิตเยอะมาก สุดท้ายความเครียดก็พาให้ป่วยทั้งร่างกายและจิตใจ คนที่ไปวิ่งหาอะไรเยอะแยะสุดท้ายก็ไม่มีความสุข เพราะฉะนั้น อยากให้กลับมาย้อนมองตัวเองว่าเราทำทุกอย่างเพื่ออะไร ถ้าเพียงพอแล้วยังมีเหลือก็ขอให้แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง ดูแลตนเองบ้าง ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง”
สวนเกษตรของคุณแอนและคุณตี๋นับเป็นตัวอย่างวิถีชีวิตที่ยั่งยืนกลางกรุง ลบล้างคำกล่าวที่ว่าคนอยู่ในเมืองจะทำไร่ทำสวนปลูกผักได้อย่างไร แม้จะมีที่ดินน้อย สภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวย หรือแม้แต่คำพูดว่าการปลูกผักไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมือง วันนี้สองสามีภรรยาผู้พลิกให้สุขภาพกลับมาแข็งแรง มีความสุขอย่างยั่งยืน และยังส่งต่อความสุขนี้ให้แก่ผู้อื่น จึงเป็นแบบอย่างที่ช่วยทำให้เราได้เปลี่ยนมุมมองและปรับวิธีคิดของคนที่ยังอยากอยู่ในเมืองให้มีความสุขได้เป็นอย่างดี
ด้วยโรคภัยที่มากมายและซับซ้อนขึ้นทุกวัน หากเราไม่เริ่มสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและจิตใจของเราเองตั้งแต่วันนี้ สุดท้ายความป่วยไข้จะมาเยือนเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีโอกาส การศึกษาแนวคิดวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อาจเริ่มจากการดูแลอาหารการกิน การปลูกผัก ฝึกจิตฝึกสมาธิ จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับทุกอย่างในชีวิตได้อย่างมีสติ และค้นพบความสุขที่ยั่งยืนในแบบของเราเอง
An Promsak | kasetsook
Kasetsook, a downtown organic farm for healthy lives
“Everyone needs to take good care of their own physical and mental health. More gain, more pain eventually.”
Although ‘you are what you eat’ seems easier said than done, especially for busy lives in big cities, with overloaded work and looming health problems, Mr and Mrs Promsak have shown that their new life after founding Kasetsook farm in the heart of Bangkok is filled with joy and strength. Starting from a few pots of organic vegetables for themselves and their neighbors, the number of their hygienic products has rapidly increased to meet more demand from cancer survivors. In the midst of COVID-19 pandemic, when people became so concerned about their good health that fresh and tasty greens in the farm continued to be sold out. Apart from production, they generously transferred their know-how both onsite at this warm welcoming farm and online via YouTube and Facebook to raise awareness of having healthy diets as an essential part of life.
Currently, there is a greater expansion of this knowledge of tangible and simple farming enrooted across the country. Believing that a healthy body promotes good mental health, they keep sharing the concepts of self-care and life balance on what to eat. Having overcome many challenges and doubts whether the farm would be successful, Kasetsook is promoting good health as part of sustainable, long-term happiness in the city.