จากความเจริญทางเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ผู้มีความรู้ด้านต่าง ๆเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้อย่างสะดวก นับเป็นการเพิ่มโอกาสทางสังคม
ผศ. พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้ที่มองเห็นโอกาสแห่งการแบ่งปันนี้ จึงได้คิดสร้างสื่อออนไลน์ในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเพจ ใช้ชื่อว่า “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ซึ่งเป็นเพจที่หยิบยกเรื่องราวปัญหาการเลี้ยงลูกในแต่ละช่วงวัยตั้งแต่วัยแรกเกิด พฤติกรรมของเด็กที่แสดงออกในแต่ละช่วงวัย ประเด็นปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กให้พ่อแม่เข้าใจถึงความรู้สึก ซึ่งความรู้ถูกถ่ายทอดมาจากองค์ความรู้ในวิชาชีพโดยตรงและการใช้ประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกของคุณหมอเอง ทำให้เพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” จึงเปลี่ยนแปลงทัศนคติการเลี้ยงลูกในค่านิยมแบบเดิมสู่การเลี้ยงลูกในค่านิยมที่ควรจะเป็นในวิธีการที่เรียกว่า “เลี้ยงลูกเชิงบวก”
คุณหมอโอ๋เล่าว่า จากประสบการณ์ในวิชาชีพที่ได้ดูแลคลินิกวัยรุ่น ได้พบปัญหาหลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นปัญหาที่เกิดมาจากวัยเด็ก ดังนั้นจึงเกิดแนวคิดในการนำสื่อออนไลน์ที่แทบเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนมาสร้างเรื่องราวการเลี้ยงลูกเชิงบวก เพื่อช่วยแนะแนวทางในการเลี้ยงเด็กยุคใหม่ที่ทุกอย่างรอบตัวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“การลงทุนกับเด็กตั้งแต่วัยเด็ก ดีกว่ามาซ่อมแซมภายหลังจากที่เขาเป็นวัยรุ่นที่บอบซ้ำ เราอยากทำงานที่ทำให้พ่อแม่เข้าใจในการเลี้ยงดูเชิงลบที่มันจะทำลายมันสมองของมนุษย์มากกว่าการเลี้ยงดูเชิงบวก”
ด้วยความที่คุณหมอเป็นนักเขียนหนังสืออยู่แล้ว การสื่อสารทางเพจที่คุณหมอถ่ายทอดจึงเสมือนเป็นการย่อยหนังสือให้ผู้อ่านเข้าใจและเข้าถึงง่าย ไม่ได้ใช้คำศัพท์ทางวิชาการมากนัก ใช้อิงตามสถานการณ์ที่ทุกบ้านจะต้องพบเจอในการเลี้ยงลูกทุกช่วงวัย เน้นให้ความเข้าใจที่ถูกในความเชื่อที่ถูกสอนมาจากรุ่นต่อรุ่นโดยไม่มีเหตุผล ทำให้เพจเข้าถึงกลุ่มพ่อแม่ได้ง่ายเพราะเนื้อหาที่ตรงใจ และบอกวิธีการรับมือโดยใช้เหตุผล บนพื้นฐานของความจริง มีแหล่งอ้างอิงได้ จึงทำให้เพจเลี้ยงลูกนอกบ้านเติบโตมียอดติดตามกว่า 7 แสนคน
การเลี้ยงเด็กไม่ใช่การเลี้ยงแต่ตัว แต่เราต้องเลี้ยงดูจิตใจ เพื่อให้เขาเติบโตอย่างสมบูรณ์
“งานเขียนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้” เป็นสิ่งที่คุณหมอพบหลังจากทำเพจจนประสบความสำเร็จ ทั้งจากยอดติดตาม ยอดแชร์ คอมเมนต์ หรือแม้กระทั่งคำถามที่ส่งไปถามส่วนตัวทางข้อความเพจ
“งานเขียนสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง ๆ เราสามารถปรับมุมมองทัศนคติของพ่อแม่ที่มีต่อการดูแลลูก การเข้าใจความเป็นมนุษย์ของลูก รวมถึงใช้วิธีการเชิงบวกกับลูกกับเด็กได้จริง แค่ตัวหนังสือมันสร้างการเปลี่ยนแปลงได้คือสิ่งที่เรียนรู้ผ่านการทำเพจ”
ต่อมาคุณหมอจึงพัฒนาการทำเพจโดยเพิ่มวิธีการสื่อสารหลายรูปแบบ ทั้งเป็นตัวหนังสือ เป็นภาพ รวมถึงสร้างความสัมพันธ์กับคนอ่านในรูปแบบอื่น เช่น ขยายงานเป็นรูปแบบออนไลน์ มีการจัดเลี้ยงลูกนอกบ้านมิตติ้ง เลี้ยงลูกนอกบ้านออนทัวร์ โดยพาเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมที่เข้าถึงชุมชน เรียนรู้ความแตกต่างให้เด็กเมืองกรุงได้เห็นความแตกต่างหลากหลายของพื้นที่ ชาติพันธุ์ เห็นคนที่เป็นชนเผ่า ให้เข้าใจปัญหาโครงสร้าง
จากองค์ความรู้สู่การสื่อสารและหลอมรวมกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นช่องทางในการเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคมโดยเริ่มต้นจากพ่อแม่ที่เป็นจุดแรกของการสร้างคน สร้างลูกตั้งแต่วัยเด็ก ให้มีการเติบโตอย่างสมบูรณ์ทางจิตใจ ซึ่งจะสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคม จนเกิดเป็นสังคมแห่งพลังบวกได้อย่างยั่งยืน
ทุกคนมีความถนัดที่แตกต่าง เมื่อเห็นความหมายในสิ่งที่ทำ เห็นคุณค่าของงานตนเอง เราจะได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราได้เรียนรู้ “ทำอะไรที่สร้างการเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นเรื่องของตัวเราด้วย และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ผู้อื่นด้วย นั่นคือประโยชน์ที่เกิดขึ้น
Asst. Prof. Dr.Jiraporn Arunakul | Ramathibodi Hospital
A positive online platform for parenting
“Raising a child isn’t just about physical development. It’s also about ensuring that they are emotionally just as strong and healthy.”
Technology and social media have served as a great asset to users to share, exchange and access valuable information. Having realized the influence of social media in spreading information, Asst. Prof. Jiraporn Arunakul, MD., specialized in Adolescent Medicine, decided to start her own Facebook page under the name “Leang Look Nork Baan”. Her Facebook page focuses on raising a child of all stages since toddler, including behaviours and issues related to children and teens that resonate with many parents. She also highlights important social issues and factors that may impact the children to raise awareness among parents. Her professional knowledge, combined with her experiences in parenting have transformed the way many Thai parents raise their children and instilled “positive parenting” skill among them.
From her own experience in dealing with adolescent patients, Jiraporn has discovered that common teenage problems stem from childhood trauma. “It is much more rewarding to invest in a child than fix a broken teen. I want to point out what harm ‘negative parenting’ can do to one’s brain”, said Jiraporn. As a writer, Jiraporn knows well how to make her messages readable and captivating. Instead of using big academic words, she opts for simple language. Moreover, since most of her contents are based on and common experiences and effective solutions to issues regarding child raising of all ages, she has attracted over 700,000 followers. She also organizes activities for kids to help them explore the communities out of their own to foster tolerance and acceptance towards differences.