ความสามารถไม่เคยจำกัดเพศและวัย ความสามารถเกิดจากความรัก ความชอบและความตั้งมั่นเรียนรู้ หลายคนประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็ก บางคนค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองหลังเกษียณ สุดแต่ว่าใครจะพบในช่วงเวลาใด แต่เมื่อได้พบแล้ว สิ่งนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุขและการแบ่งปัน ด.ญ. ภูริศา เฮงตระกูลสิน หรือ น้องมินนี่ เป็นหนึ่งในผู้ที่ค้นพบว่าตนเองรักที่จะทำอะไร ซึ่งเริ่มต้นจากการเล่น และสิ่งที่เล่นนั้นพาไปสู่อาชีพที่ไกลเกินฝัน จนพบกับความสำเร็จในทุกวันนี้
“น้องมินนี่” ภูริศา เฮงตระกูลสิน ดีไซเนอร์อัจฉริยะตัวจิ๋ว ที่วันนี้มีแบรนด์ของตัวเองภายใต้ชื่อ PURISA GLITZY ดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย และเคยเป็นเจ้าของช็อปเสื้อผ้าในห้างหรูที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกอีกด้วย
“ตอนนี้หนูอายุ 14 ปี แล้วค่ะ เป็นดีไซเนอร์มา 7 ปี มีงานของตัวเอง 19 collections กับ 10 fashion shows และหนูเคยมีโอกาสไปโชว์เสื้อผ้าเป็น pop-up ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หนูรู้สึกมีความสุขและดีใจมากที่ได้ลงมือทำจนถึงทุกวันนี้”
มินนี่เล่าจุดเริ่มต้นความฝันนี้ว่ามาจากตอนอายุ 4-5 ขวบที่ตัวเองเริ่มอยากแต่งตัว เพราะทำให้รู้สึกมั่นใจ พอเริ่มอ่านหนังสือออกก็ได้มีโอกาสอ่านประวัติของ Coco Chanel จึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญและจุดประกายความคิดในการออกแบบเสื้อผ้า ทำให้จากความต้องการของเด็กตัวเล็ก ๆ เริ่มก่อเกิดเป็นรูปธรรมด้วยความรัก ความมุ่งมั่น และแรงสนับสนุนจากครอบครัว ซึ่งในวันนั้นสิ่งที่เด็กอายุ 7 ขวบตั้งต้นคือการคิดหาเงินลงทุน จากนั้นจึงเลือกแบบเสื้อผ้าที่วาดไว้ว่าแบบไหนมีโอกาสขายได้จริง ๆ สิ่งนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของใครหลายคนว่าเด็กอายุเพียงเท่านี้จะวางแผนธุรกิจของตนเองจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้
ด้วยอายุที่ยังน้อย ประกอบกับความรู้ความชำนาญเฉพาะทางที่ยังไม่มากและมั่นคงพอ จึงไม่สามารถสื่อสารเทคนิคตัดเย็บหรือใช้ศัพท์เฉพาะกับช่างได้ สิ่งนี้นับเป็นปัญหาของน้องมินนี่ จนเกิดคำถามในใจแบบเด็ก ๆ ว่า ทำไมถึงทำสิ่งนั้นไม่ได้ เมื่อต้องการคำอธิบาย น้องมินนี่จึงหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถถ่ายทอดความคิดของตนเองและอธิบายช่างตัดเย็บ รวมถึงผู้อื่นให้เข้าใจได้
หนูไม่กังวลกับการเป็นเด็ก เพราะการเป็นเด็กทำให้หนูไม่มีข้อจำกัดในการเรียนรู้ หนูจะไม่เป็นน้ำที่เต็มแก้ว
ด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวหน้าและรวดเร็วของโลกในปัจจุบัน ทั้งสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และบริบทต่าง ๆ ทำให้ดีไซเนอร์ตัวจิ๋วในวันวาน ได้รับบททดสอบใหม่ในการนำแนวคิดการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียมาต่อยอดในการทำงาน โดยอาศัยแพลตฟอร์มที่หลากหลายทั้ง Facebook, Line Shop และ TikTok เพื่อสื่อสารแบรนด์ของตนเอง เธอเน้นกลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลักแบบตัวต่อตัว เพื่อให้ลูกค้าผูกพันและมั่นใจในสินค้า ทั้งยังได้ประโยชน์ในการต่อยอดไอเดียการออกแบบจากคอมเมนต์ต่าง ๆ ของผู้ที่เข้ามาชมสินค้าในโลกออนไลน์ที่เป็นทั้งลูกค้าและเป็นเพื่อนของเธอ
น้องมินนี่เป็นแรงบันดาลใจและเป็นตัวอย่างของเยาวชนไทยที่ทำในสิ่งที่รักอย่างทุ่มเท ไม่หยุดเรียนรู้ และพัฒนาสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จ
“หนูไม่เคยเป็นน้ำเต็มแก้ว หนูพร้อมเรียนรู้และพัฒนาจากคำแนะนำของทุกคน หนูมีวันนี้เพราะทุกคนเปิดใจยอมรับงานออกแบบที่หนูเลือก ดังนั้นหนูยินดีรับฟังทุกคนเช่นกัน ความรักในสิ่งที่ทำ ทำให้เราไม่เหนื่อยที่จะพยายาม อดทน และเรียนรู้ หนูเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่อยากทำแบบหนู แค่ก้าวออกมาแล้วพยายาม ก็จะเป็นอีกคนที่มีความสุขบนโลกของตัวเองได้”
การพิสูจน์ว่าสิ่งที่คิดสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ คือการไม่ปิดกั้นความรู้ในทุกรูปแบบ แสวงหา ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ หาแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และส่งต่อแรงบันดาลใจนั้นเพื่อให้โอกาสคนอื่นได้ประสบความสำเร็จ นับเป็นความสำเร็จที่ประเมินค่ามิได้
Purisa Hengtrakulsin | Purisa Glitzy
Perseverance, learning and the road to success
“I have never been worried about being a child because it is not a barrier to learning. I am not a glass of water that is filled to the rim.”
Talents and success do not have to do with gender nor age but instead flourish through passion, interest, and perseverance. Some people experience success earlier in life. Some people discover their talents after their retirement. Either way, their experiences and discovery certainly bring happiness and are worth sharing. Purisa “Minnie” Hengtrakulsin, the founder of PURISA GLITZY clothing brand, is one of those who discovered their passion early on and built a professional success out of it.
Her passion and dream for this career was ignited by Coco Chanel’s biography and continually materialized, thanks to the love and support from her family. Beyond anyone’s expectations, the seven-year-old girl came up with the plan to fund and market her own clothing line. Despite her very young age and lack of technical know-hows, she did not let these barriers stop her and overcame them by acquiring more knowledge and improving her communication with dressmakers. At the age of fourteen and seven years into her career, she became Thailand’s youngest fashion designer and the world’s youngest owner of clothing stores. She had had nineteen collections, exhibited her work at ten fashion shows, and opened several pop-up stores in high-end shopping malls.
With the rapidly changing digital landscape, which posed a new challenge for her, she made use of diverse platforms such as Facebook, Line Shop, and TikTok to communicate the identities of her brand and strategically engage with her potential customers.