top of page
  • Writer's pictureNIA 100 FACES

ศิรเดช โทณวณิก | “อาศัย” โมเดลธุรกิจโรงแรมเพื่อความยั่งยืน

Updated: Jun 19, 2021



หนุ่มนักเรียนนอก ทายาทของโรงแรม ผู้ปลุกปั้น “ASAI” (อาศัย)

โรงแรมที่เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคัลเจอร์ใหม่ตอบโจทย์มิลเลนเนียล


“แชมป์ - ศิรเดช โทณวณิก” คือทายาทรุ่นที่ 3 ที่มารับไม้ต่อธุรกิจเครือโรงแรมห้าดาวนามว่า ดุสิตธานี หลังจากคว้าปริญญาด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองจากอังกฤษมาได้สำเร็จท่ามกลางกระแส Digital Disruption ที่ทำให้มีโรงแรมต่าง ๆ ผุดขึ้นมากมาย และไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงจึงมองหาโรงแรมแบรนด์ใหม่ที่มีจุดยืนและคุณค่าเชิงสังคม โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ หลังศึกษาหาข้อมูลมาพักใหญ่ ในที่สุดแบรนด์กลุ่มโรงแรมแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ “อาศัย” (ASAI) จึงถือกำเนิดขึ้นและกำลังขยายสาขาไปหลายแห่ง

“โรงแรมมักถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือยด้วยแนวคิดแบบ More is More สำหรับผมต้องการทำให้ Less is More มากกว่า ทำอย่างไรเราถึงจะโฟกัสสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ดึงด้านบวกออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับโลกของเรา

คนสมัยใหม่เดินทางเพื่อทำงานและท่องเที่ยวไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า “Bleisure” แล้วทำไมเราไม่สร้างแพลตฟอร์มให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ แม้แต่ในมุมของพนักงานเองก็สามารถเข้ามาเรียนรู้การ Co-Creation เป็นคัลเจอร์ที่ดึงทุกคนให้มารวมตัวกัน สร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้เติบโตกันอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ ศิรเดชมองว่า “Sustainability” (ความยั่งยืน) จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย หากไม่มี “Creativity” (ความคิดสร้างสรรค์) ฉะนั้นทีมงานของ ASAI ซึ่งมีจำนวนเพียง 10 กว่าคน จึงไม่ได้มาจากสายโรงแรมเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ช่วยเสนอมุมมองในแง่ Product Development พร้อมทั้งปฏิวัติวงการโรงแรมด้วยสิ่งใหม่ ๆ ที่มีผลดีกับสิ่งแวดล้อม


โรงแรมมักถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือยด้วยแนวคิดแบบ More is More ซึ่งสำหรับผมต้องการทำให้ Less is More มากกว่า

“การสร้าง Culture มันง่ายกว่าการเปลี่ยน Culture นะ สำหรับ ASAI เราสร้างทีมที่สามารถ Disrupt ตัวเราเองได้ เริ่มตั้งแต่กระบวนการเลือกบุคลากร เรารวมคนหลายพื้นเพและประสบการณ์เพื่อสร้าง Culture โดยที่ Sustainability เป็นหนึ่งใน Culture ที่สำคัญและเรายังให้อิสระค่อนข้างเยอะ บอกทุกคนในทีมว่า ต้องได้ลองทำอะไรที่เป็นไอเดียของตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้เราเป็นองค์กรที่ Do Fast, Sell Fast, Learn Fast”

กลุ่มเป้าหมายของ ASAI คือกลุ่มคนที่มี “Millennial Minded” นั่นหมายความว่าคนที่มีแนวคิดแบบมิลเลนเนียล จะมีอายุเท่าไรก็ได้ เป็นคนที่รักในประสบการณ์ จะทำงานหรือเที่ยวไปด้วยก็ได้ ทั้งยังให้บริการที่ตอบสนองกลุ่มคนเหล่านั้น เช่น การสร้างเว็บไซต์ที่ไม่ใช่แค่เอาไว้จองห้องพักอย่างเดียว แต่เป็น Content Hub สำหรับคนที่อยากสำรวจและอยากรู้อินไซด์ของพื้นที่นั้น ๆ ในแง่ของดีไซน์ดึงคนระดับท็อป ๆ มาร่วมมือ ไม่มีล็อบบีเพื่อประหยัดพลังงาน มีห้องพักข้างบน ข้างล่างเป็นร้านอาหารที่เน้นคุณค่า มีการทำร่วมกับหนึ่งดาวมิชลินและให้สนับสนุนท้องถิ่น

ศิรเดชเผยว่า โรงแรมที่เปิดใหม่มีทำเลทองใน 2 พิกัด ได้แก่ ย่านไชน่าทาวน์และสาทร นอกจากนี้ยังมีที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมียนมาและญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้กำลังเล็งบุกเปิดพื้นที่อื่น ๆ ในอาเซียน “ในแง่ของการเติบโต ผมค่อนข้างแฮปปี้ มี 6 โรงแรมที่เราเซ็นไปแล้ว ครึ่งหนึ่งเราเป็นเจ้าของส่วนอีกครึ่งหนึ่งมีพาร์ตเนอร์ชอบคอนเซปต์และนำไปทำต่อ เพราะเขาชอบที่เรานึกถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้เขามองว่าเรานึกถึงอนาคตไปด้วย สำหรับคนที่มองว่าจะทำเงินได้เท่าไร พวกนี้อาจมองไปที่อดีตหรือมองแค่ปัจจุบัน เขาบอกว่าแบรนด์เรามีความ Progressive มาก”

เขายังย้ำอีกว่า “ผมเชื่อในมุมมองเรื่อง Social Enterprise และ Ecosystem เป็นอะไรที่สำคัญมากไม่ได้หมายถึงในแง่สิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่ในแง่ของซัพพลายเออร์ เวลาทำงานกับใครเราต้องดู Ecosystem ก่อนเลย อย่างน้อยถ้าเราได้ เราต้องไม่ไปเหยียบหัวคนอื่น นี่เป็นสิ่งที่ผมและทางทีมให้ความสำคัญที่สุดครับ”


 

ASAI, a Hotel Business Model for Sustainability

‘Champ-Siradej Donavanik’ is the third generation of the successor to the five-star hotel chain called Dusit Thani. He graduated with a British degree in economic and political development. The digital disruption trend has brought about emerging hotels that changed people’s lifestyles. This young executive is looking for a new branded hotel with a social standpoint and value, especially on the environment, to which the world is paying attention. After studying for a while, a new hotel group brand, under the name ‘Live’ (ASAI), was finally born and is expanding into several locations. “Hotels are often considered as a relatively extravagant industry with the concept of “More is More”. For me, I would rather make it “Less is More”. On that score, we should focus on what is really important. Just take out the positives and use them to benefit our world.” Today, people travel for work and for leisure as well, so-called ‘Bleisure’. So, why can’t we create a platform for this group of customers? And for the employees, they can learn about co-creation, a culture that brings everyone together and build a platform that enables sustainable growth.” Siradet sees that ‘Sustainability’ cannot be achieved without ‘Creativity’, therefore ASAI’s team, which is just over 10 people, is not only from the hotel chain. This is to help propose a product development perspective and revolutionize the hotel industry with something new, which has a positive effect on the environment. “We tell everyone in our team that you need to try out your own ideas. Just do anything needed to make us do fast, sell fast, learn fast.”

49 views0 comments
bottom of page