top of page
  • Writer's pictureNIA 100 FACES

นักรบ มูลมานัส | ตัดภาพ แปะเรื่องราว บอกเล่าเรื่อง

Updated: Jun 7, 2021



“นักรบ มูลมานัส” กับเจ้าของภาพคอลลาจ ศิลปะร่วมสมัยที่สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรม อย่างแปลกใหม่และลงตัว


“นักรบ มูลมานัส” เป็นอีกหนึ่งในศิลปินไทยที่เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่รู้จักและถูกจับตามอง ด้วยความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร นักรบได้ฝากลายเส้นและสร้างงานศิลปะที่มีความแตกต่างด้วยการเล่าเรื่องผ่านภาพ “คอลลาจ” หรือภาพตัดปะที่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ สภาพสังคม และวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว

สมัยวัยเด็กนักรบได้เติบโตมาในท่ามกลางวัฒนธรรมของการอ่าน การสะสมของเก่า รวมถึงความสนใจในเรื่องราวประวัติศาสตร์ ทำให้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่อยากจะเป็นนักออกแบบ และทำตามความเชื่อที่ว่า การเป็นนักศิลปะไม่จำเป็นต้องวาดภาพให้สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ทว่ามันสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะขึ้นได้จากสิ่งที่เรามีให้กลายเป็นชิ้นงานที่มีความหมายและเป็นสไตล์ของตนเอง

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า เราจะสามารถเข้าถึงสุนทรียภาพของศิลปะคอลลาจเหล่านี้ได้อย่างไร ซึ่งนักรบได้เล่าว่า งานของเขาคือความไม่เข้ากันของสิ่งที่มีความแตกต่างกัน เพราะมันสร้างสรรค์มาจากสิ่งที่มีมาอยู่แล้ว หรืออาจเป็นการนำสิ่งเก่ามาวางในบริบทใหม่เพื่อนำไปสู่เรื่องราวที่ลึกซึ้งกว่าเดิม เเต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองหรือเสพงานเราอย่างไร


เราอยากให้ Art Culture เข้าถึงทุกคนและตั้งคำถามกับมันได้ โดยไม่มีอะไรผิดถูกเพราะมันคือการเสพศิลปะ

“บางครั้งปรากฏการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้น มันน่าสนใจ มีทั้งกระเเสเชิงลบเเละบวก แต่มันก็ถือเป็นสิ่งที่ธรรมดาเพราะในสังคมไทยบางเรื่องมันห่างไกลจากเขามาก บางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่ในบริบทที่ใกล้ตัวเขา เขาก็เลยตัดสินอีกแบบหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีใครผิด แต่พอเกิดสิ่งนี้ขึ้น เราก็อยากให้ Art Culture เข้าถึงทุกคนให้ได้เห็น แล้วตั้งคำถามกับมันได้ ซึ่งมันอาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่เขาเห็นเเล้วมาขัดกับสิ่งเดิมที่เขาคิด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เราคิดว่า เราเสพศิลปะ แล้วตีความสิ่งที่เราเห็นเข้ากับสิ่งที่เรามีอยู่ในตัวเรารู้สึกว่ามันน่าสนใจที่คนเห็นงานเราแล้วตีความในหลายรูปแบบ ไม่มีอะไรผิดถูก มันทำให้สังคมไทยเข้าใกล้วัฒนธรรมของการคิดวิเคราะห์มากขึ้น มีพื้นที่ให้ได้ถกเถียงกัน มันเกิดเป็นนวัตกรรมในสังคม”

ผลงานที่นักรบรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษนั้น คือการได้มีโอกาสทำภาพประกอบบทความลงนิตยสารดิฉัน ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นงานที่เล็กมากและเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับถูกตีพิมพ์และได้รับการยอมรับ จึงเป็นเสมือนการได้พิสูจน์ตนเองว่ามีคนเห็นคุณค่าของงานศิลปะเพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นทำให้นักรบได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานต่อไปเรื่อย ๆ จากงานนิตยสารไปสู่งานนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ขึ้นนอกจากนี้ ยังมีผลงานอื่น ๆ ที่จุดประกายให้ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังถูกแชร์ในโลกออนไลน์ทำให้ผู้คนเกิดความสนใจเป็นจำนวนมากคืองานอาร์ตเวิร์ก ซึ่งเป็นภาพเกี่ยวกับวันงานสงกรานต์ ที่นำคนรำในสมัยก่อนมาตัดต่อเข้ากับปืนฉีดน้ำ แสดงให้เห็นถึงการนำสิ่งที่มีอยู่หรือวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยมาผสมผสานกับบริบทใหม่จึงกลายเป็นงานศิลปะร่วมสมัยออกมา ในจุดนี้จึงทำให้งานของนักรบมีความแปลกใหม่และสะท้อนความเป็นไทยได้อย่างหลากหลากมิติสุดท้ายแล้วนักรบยังได้ฝากแรงบันดาลใจในฐานะนักศิลปินไทยผู้สร้างสรรค์งานศิลปะว่า

“ในหลายสิบปีนี้ ทุกคนพูดถึงความเป็นไทยและหยิบจับเอามาทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน ออกแบบ เราพูดถึงการหยิบจับความเป็นไทยในบริบทที่เยอะเกินไป แต่นิยามความเป็นไทยกลับยังถูกพูดถึงได้ไม่ครบถ้วนจากสายตาของคนรุ่นใหม่ขนาดนั้นอาจจะยังมองไม่เห็นถึงหลาย ๆ มิติ อาจคิดว่ามันน่าเบื่อแล้ว แต่เรายังเชื่อว่ามันยังมีแง่มุมที่ยังไม่ถูกค้นพบเสมอ เเต่เราอาจจับงานไปเข้ากับวัฒนธรรมต่าง ๆ หรือเอามาอยู่ในบริบทร่วมสมัยก็ได้ มันมีแง่มุมมากมายให้เราค้นหาพร้อมกับตั้งคำถามอีกด้วย”


 

Collages: A Modern Way of Narrating History, Society, and Culture

Nakrob Moonmanas is a Thai collagist and illustrator who is best known for his outstanding visual storytelling and reflection of historical, social, and cultural narratives. When he was a kid, he enjoyed reading, collected old items, and had a huge interest in history. He has created multiple pieces of artwork that present history, society and cultures in a very decent way. His life background guided him to become a designer with a talent to create collage artwork with a theme that juxtaposes incompatible things together. His works revolve around finding compatibility from the seemingly incompatible artistic elements. His name is made by his use of pre-existing elements and reinterpretation them in new, modern contexts. His strategy gives his artworks profound storylines that can be interpreted in several ways by audience.

As controversial as his works might be perceived by the Thai society, Nakrob delivers his works on the ground of openness to interpretation and questioning and takes in any criticisms with grace. He finds it understandable that his art culture is subject to both positive and negative critiques. He accepts that not every subject that is depicted in his artworks can be easily understood to every sort of audience. Despite all those, he believes that the subjectivity of his art is what makes it interesting and may hopefully stimulate the Thai society to embrace the culture of critical thinking, constructive discussion, and social innovation. As per his inspiration for young art enthusiasts, quoted Nakrob, “More efforts could be put into discovering the definition of the so-called ‘Thainess’ from different dimensions.”




388 views0 comments
bottom of page