อดีต Data Scientist แห่ง Facebook ผู้ก่อตั้ง Skooldio
แพลตฟอร์มที่มุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะแห่งโลกสมัยใหม่
ไม่กี่ปีก่อน ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล คือ Data Scientist ประจำสำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊ค ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีเงินเดือนที่ดี มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม และอยู่ในองค์กรที่มั่นคง ทว่าหลังจากที่ทำงานในเฟซบุ๊คได้สามปี อยู่ๆ ดร.วิโรจน์ก็ตัดสินใจลาออกจากบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ เลือกจะปฏิเสธโอกาสที่มี และบินกลับมายังประเทศไทย
“เราอยากสอนหนังสือ เพราะในชีวิตเราเจอครูดีๆ มาเยอะ และสนุกกับการเรียน แต่คนส่วนใหญ่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เรามองว่า ตัวเองมีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ เลยคิดว่าน่าจะช่วยขับเคลื่อนเรื่องการศึกษาได้” ดร.วิโรจน์เล่า
อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่า ดร.วิโรจน์ยังเป็นนักเรียนทุนอานันทมหิดล ที่แม้ว่าตัวทุนเองจะไม่ได้มีข้อผูกมัดๆ ใด หากก็มีการตกลงสัญญาใจไว้กับผู้ได้รับทุนว่า ควรจะกลับมาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ บวกกับการที่เขาเห็นว่า data ให้ศึกษาอีกมาก ในแง่นี้ ความรู้และความเชี่ยวชาญที่เขามี จึงน่าจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้มากกว่า
“ตอนที่เราอยู่ในเฟซบุ๊ค เราอาจเป็นหนึ่งในหมื่นคน ที่เขาก็ไม่ได้ต้องการเราขนาดนั้น ต่อให้ลาออกไป เขาก็หาคนใหม่มาแทนได้ ในขณะที่ประเทศไทยกลับยังไม่ค่อยมีคนรู้เรื่อง data มากนัก เราเลยคิดว่าน่าจะกลับมาได้แล้ว”
ข้อเสียของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วคือเราเหนื่อยแต่ข้อดีคือจะยิ่งมีโอกาสให้เราเยอะทุกคนเก่งขึ้นได้
ในตอนแรก ดร.วิโรจน์ตั้งใจว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่เพราะเพื่อน ๆ ต่างพากันเตือนว่า ระบบมหาวิทยาลัยอาจไม่เอื้อต่อความรู้มากมายที่เขาอยากจะสอน ดร.วิโรจน์จึงลองค้นหาทางเลือกอื่น ๆ จนไปพบโจทย์ที่ว่า จริง ๆ แล้วยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรจะได้รับการศึกษา นั่นคือ พนักงานในองค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานมาหลายสิบปี และเริ่มจะปรับตัวไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ปัญหาที่หลาย ๆ องค์กรกำลังเผชิญกันอยู่คือ ความไม่พร้อมของพนักงานในการจะยกระดับไปสู่องค์กรดิจิทัล
“มันเลยเกิดเป็นไอเดียว่า งั้นเราทำบริษัทขึ้นมาดีกว่า โดยโฟกัสว่า เราไม่ได้จะมาสอนความรู้พื้นฐานตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่จะมาช่วย Reskill ให้คุณได้เห็นโอกาสจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ” นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Skooldio
Skooldio คือบริษัทเทคโนโลยีที่ประกอบด้วย 2 ส่วน นั่นคือ อะคาเดมี (Academy) และเทคโนโลยี (Technology) โดยในฝั่งอะคาเดมีจะเป็นเสมือนโรงเรียนที่มีเป้าหมายในการสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของโลกปัจจุบันให้กับบุคคลต่าง ๆ ในขณะที่ฝั่งเทคโนโลยีจะมุ่งสร้างเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะช่วยในการพัฒนาบุคคลให้พร้อมรับมือกับโลกสมัยใหม่ ภายใต้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เป้าหมายของ Skooldio จึงเป็นการพัฒนาทักษะของโลกสมัยใหม่ให้กับบุคคลต่าง ๆ ในแง่นี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยพัฒนาข้อจำกัดและยกระดับศักยภาพของพนักงานเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้องค์กรหนึ่ง ๆ ได้มีบุคลากรที่เพียบพร้อมขึ้น และสามารถจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วย
“สิ่งที่ผมหวังคือ องค์กรก็จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติไปข้างหน้าได้” ดร.วิโรจน์กล่าว แม้เพิ่งก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี แต่ Skooldio เติบโตในระดับที่น่าพอใจ จากปีแรกที่ตัวเลขรายได้บริษัทอยู่ที่ 10 ล้านบาท สู่ปีล่าสุดที่ตัวเลขกระโดดขึ้นมาเป็น 60 สิบล้านบาท นั่นเพราะทุก ๆ องค์กรในตอนนี้ต่างเห็นความสำคัญในการจะยกระดับตัวเองไปสู่ระบบดิจิทัล นอกจากมุมองค์กรแล้ว Skooldio ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของใครหลายคน โดยดร.วิโรจน์เล่าว่า มีหลายครั้งที่ผู้เรียนส่งข้อความมาขอบคุณที่หลักสูตรของที่นี่ไม่เพียงจะช่วยให้เก่งขึ้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาได้รับการจ้างงานในองค์กรใหญ่ ๆ อีกด้วย
“ตอนนี้เป็นโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว หลายคนไม่ชอบ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงคือโอกาส ยิ่งเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว เราก็จะต้องวิ่งนำคนอื่นหนึ่งก้าวตลอดเวลา ทุกคนสามารถพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ แค่เราไม่หยุด เราก็จะเก่งขึ้นได้ในทุก ๆ วัน” ดร.วิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย
The Data Scientist Who Craves for 21st Century Skills
Having gained professional experience as Facebook’s data scientist in the US, Virot returned to Thailand with strong determination to fulfill his duty for his motherland. A former recipient of Anandamahidol scholarship, he wished to exploit his knowledge and expertise in data implementation to benefit his country. Instead of starting an academic career, he conducted research and became convinced that long-term employees in many organizations urgently needed to be reskilled to suit the digitalized world. Combining academy and technology, his Skooldio provides a flexible playground of new competencies to help people overcome their limitations and to effectively develop human resources, the important key to success for organizations and national economy in this era of change. Its skyrocketing growth in recent years has proven a good sign of digital awareness in many organizations. Learning with Skooldio also impacts an individual since technology skills and courses can provide opportunities for a wider range of careers. “Many people don’t like how rapidly the world of technology is changing but it’s an opportunity. We can go one step further by staying up-to-date and by learning continuously. We must be determined to be smarter every single day.”