top of page
  • Writer's pictureNIA 100 FACES

อภิรักษ์ โกษะโยธิน | จาก “พ่อเมือง” สู่งานนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ

Updated: Aug 22, 2021




การเกษตรถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ต้องพัฒนาเรื่องโครงสร้างทางธุรกิจ และการทำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งในแง่การเพิ่มช่องทางการขาย ลดต้นทุนการผลิต และพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์


จากผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำ จนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาถึงวันนี้ บทบาทล่าสุดของ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” คือผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัทวีฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวโพดหวานพร้อมทาน (Golden Sweet Corn) คุณภาพดี ภายใต้แบรนด์ “วีคอร์น” (V Corn) และน้ำนมข้าวโพดแบรนด์ “วีฟาร์ม” (V Farm) ที่ใช้เวลาเพียง 2 ปี มียอดขายรวมสูงถึงกว่า 140 ล้านบาท ความสำเร็จนี้ ได้มาด้วย “นวัตกรรม”

ย้อนกลับไปช่วงปี 2557 คุณอภิรักษ์มีความตั้งใจที่จะมาเป็นผู้ประกอบการและทำธุรกิจของตนเอง จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาในธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบกับเรียนจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหาร พอดีช่วงนั้นเทรนด์ของ Urban Healthy Lifestyle กำลังอยู่ในความสนใจ คนเมืองมีความใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายกันมากขึ้น ด้วยใจที่อยากให้คนไทยมีสุขภาพดี จึงเริ่มมองหาผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นที่นิยม สุดท้ายมาลงเอยที่ “ข้าวโพด” ที่คุณอภิรักษ์มองว่า เป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคย มีคุณค่าทางอาหารและวิตามินสูง มีสารต้านมะเร็ง และสารต้านอนุมูลอิสระ


เราส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ในการสร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์ เพื่อผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ

ก้าวแรกของวี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กแบบ SME การจะไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั้นคุณอภิรักษ์กล่าวว่า ต้องเน้นเรื่องนวัตกรรมและการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยการตั้ง V Foods Lab ที่เป็นหน่วยงานทางด้านวิจัยและพัฒนา (Research and Innovation Lab) นำผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาสร้างนวัตกรรมร่วมกันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวโพดหวาน เริ่มจากการทำงานร่วมกับนักวิจัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ จนได้ข้าวโพดสายพันธุ์พิเศษมีความหวานธรรมชาติ เนื้อกรอบมีกากนุ่มทำให้รับประทานง่าย รสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รวมถึงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดกับเกษตรกรแบบพันธสัญญาในจังหวัดกาญจนบุรี และบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ต้องทำงานใกล้ชิดกับโรงงานผลิต โดยผลิตข้าวโพดหวานพร้อมทานด้วยระบบพาสเจอร์ไรซ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความสดใหม่ อร่อย มีอายุสินค้า 8-12 วัน เพราะบริษัทผลิตสินค้าวันต่อวัน ทำให้ต้องรับข้าวโพดสดทุกวัน ต้องวางแผนเพาะปลูกให้ดีเพื่อไม่ให้วัตถุดิบขาด โดยมีการลงพื้นที่ให้ความรู้ด้านการปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และได้จำนวนผลผลิตต่อไร่สูงสุด เป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น

อีกหนึ่งนวัตกรรมที่คุณอภิรักษ์เล็งเห็นว่า เป็นประโยชน์กับธุรกิจอย่างยิ่งคือ “ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค” สืบเนื่องจากตอนบริษัทฯ ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ที่ประเทศไทยเกิดภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวโพดลดลง เมื่อผลผลิตขาดตลาด ส่งผลให้ยอดขายตก คุณอภิรักษ์ได้ลงทุนทำวิจัยศึกษาความต้องการของผู้บริโภค เป็นที่มาของข้าวโพดตัด 3 ท่อน แทนที่จะวางจำหน่ายทั้งฝัก คือใน 1 ฟัก ตัดแบ่งเป็น 3 ท่อน ทำให้รับประทานได้สะดวกขึ้น และนำเมล็ดข้าวโพดมาคั้นสดเป็นน้ำนมข้าวโพดวีฟาร์ม ซึ่งเมื่อวางจำหน่ายก็เป็น สินค้าขายดีจนมาถึงทุกวันนี้ จากความสำเร็จในครั้งนั้น วีฟู้ดส์จึงได้นำเทคโนโลยีทางด้านการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกออนไลน์ Social Listening เข้ามาเป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างกิจกรรมทางการตลาดให้ตรงใจผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากที่สุด และไม่เพียงการใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดเท่านั้น ท่ามกลางกระแสรักษ์โลกที่กำลังมาแรง คุณอภิรักษ์ยังใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นการใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้นอีกถึง 50%

สำหรับก้าวต่อไปของวีฟู้ดส์ คุณอภิรักษ์กล่าวว่า ได้มีการรีแบรนด์ดิ้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นแบรนด์วีฟาร์ม (V Farm) เพื่อตอกย้ำความสดใหม่เป็นธรรมชาติของสินค้า และมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในช่องทางดิจิทัลเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทยยุค New normal โดยได้เปิด Line OA ในชื่อ @VFarm เพื่อความสะดวกโดยจัดส่งถึงบ้าน นอกจากนี้ยังร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Food Tech Startup เพื่อขยายกลุ่ม ผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือกจากพืชและโปรตีนจากพืช (Plant-based Protien) แบรนด์ “More Meat” ซึ่งเป็นกระแสอาหารทางเลือกสุขภาพสำหรับคนไทยยุคใหม่ โดยมีเป้าหมายในระยะ 5-10 ปีนี้คือ เป็นผู้นำด้านอาหารและสุขภาพในภูมิภาคอาเซียน

 

Agriculture, Business, and Technology: Innovation for Healthy Food

Apirak Kosayodhin has played different roles in his life journey, from being a member of executive management team to being appointed the respected Governor of Bangkok. At the moment, he is the founder and managing director of V Foods (Thailand) Co., Ltd. that offers high quality golden sweet corn (V Corn) and corn milk (V Farm). Within 2 years, he made over 140 million Baht. This great success is derived from ‘innovation.’ Back in 2014, Apirak changed his interest from politics to the food business, following the trend of the urban healthy lifestyle. To make Thai people healthy, he chose “corn” as his main product because it is rich in nutrients, vitamins, and anti-oxidants. The steps to success for V Foods were not easy. To reach rapid and efficient accomplishment, Apirak prioritzed ‘innovation’ and with his business partners, they established a research and innovation laboratory, V Food Labs, to develop corn products. He also cooperated with local farmers in Kanchanaburi and some northern provinces and worked closely with factories to ensure the freshness and quality of the products. He visited the areas to educate farmers so that they could make the most profit from their farms and improve their living conditions. In addition to farming innovation, Apirak emphasizes the significance of customer behavior. According to his research, for example, customers preferred corns cut into 3 smaller pieces because they could be eaten more easily. From this idea, V Foods adopted ‘social listening’ as its marketing tools to develop the products and initiate activities that could respond to the customers in the digital age. Aware of the ongoing environmental problems, Apirak is relying less and less on plastic use. Currently, Apirak is working with a Tech Startup and aiming to be the leader in the food and health industry in the ASEAN region in the next 5-10 years.

134 views0 comments
bottom of page